วันนี้เรามีแผนไปเที่ยวสวนอุเอโนะ เพื่อไปชมธรรมชาติ และดอกซากุระในสวนย่านใจกลางเมืองโตเกียว ปีนี้ซากุระเริ่มบานเร็ว เราเลยได้มีโอกาสเห็นความงดงามของดอกซากุระ ในสวนนี้ นอกจากจะมีความงดงามของธรรมชาติแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ และสวนสัตว์อีกด้วย จะเห็นเด็กเล็กมาเดินเที่ยวสวนสัตว์กันมากมาย
หลังจากชมสวนเรียบร้อยแล้วเราก็แวะเข้าตลาดอะเมโยโกะ ตลาดแห่งนี้มีของฝากให้ซื้อมากมาย ทั้งอาหารทะเลสด อาหารแห้ง ผลไม้ เสื้อผ้าของใช้ ร้านเกม ในตลาดแห้งนี้ มีร้านเคบับฮาลาลอยู่หลายร้าน
ถ้าหิวก็สามารถแวะซื้อเคบับร้านตุรกีได้ ร้านตั้งอยู่ต้นทางเข้าตลาดสังเกตุไม่ยาก จะเห็นชายหนุ่มหน้าแขกยืนเรียกลูกค้าให้เข้าร้านอย่างเป็นมิตร
เราเดินลัดเลาะตามตลาดไปเรื่อยๆก็จะไปถึงกับตึกทาเคยะ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อตึกม่วง เป็นแหล่งฮอตฮิตของคนเอเชีย ขาช้อป ห้างแห่งนี้มีของฝากให้ซื้อมากมายที่สำคัญราคาค่อนข้างถูกและสามารถที่จะ Refund Tax ได้เลย แถมยังมีเจ้าหน้าที่คนไทย สามารถให้คำแนะนำเป็นภาษาไทยอีกด้วย
หลังจากที่ได้ของกันเต็มไม้เต็มมือ เหน็ดเหนื่อยกับการซื้อแบบไรสติ ท้องก็เริ่มหิว เราจึงมุ่งหน้าไปร้านเนื้อย่าง เพื่อทานมื้อกลางวันกัน ร้านนี้เป็นร้านเนื้อย่างวากิวร้านเด็ด ที่เราแนะนำให้ใครหลายๆคน ที่มาเที่ยวโตเกียวต้องมาลอง
ระหว่างทางเดินไปที่ร้านเนื้อย่างมีร้านขายของฮาลาล และมัสยิดสามารถแวะละหมาดกันได้ แต่สำหรับกลุ่มเราตกลงกันว่าจะกลับไปละหมาดที่ที่พัก เนื่องจากเราซื้อของ Shopping มาเยอะ จึงไม่สะดวก และที่พักอยู่ไม่ไกลเราจึงเลือกเดินทางกลับที่พักก่อนเพื่อไปเก็บสัมภาระแล้วค่อยไปเที่ยวกันต่อในช่วงบ่าย
ร้านเนื้อย่าง Yakiniku Panga ร้านยากินิคุเนื้อวะกิวพรีเมี่ยมฮาลาล
Panga เป็นร้านอาหารไสตล์ยากินิคุ ร้านนี้อยุ่แถว Okachimachi ลงสถานี Naka-Okachimachi สาย Hibiya ทางออก 1 แล้วเดินมาอีกสักพักก็จะเจอร้าน หรือใช้รถไฟสายสีชมพู หรือ Oedo Line มาลงที่สถานี Shin-Okachimachi สังเกตที่โลโก้นกฮูก ซึ่งเป็นย่านชอปปิ้งที่เรียกว่า Satake
Yakiniku Panga เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฮาลาลที่ได้รับใบรับรองฮาลาลทั้งวัตถุดิบเนื้อ และเครื่องปรุง จาก JAPAN HALAL FOUNDATION ของมัสยิดเมือง Okachimachi เรื่องรสชาติของอาหารคงไม่ต้องกังขา เนื่องจากเสิร์ฟความอร่อยมายาวนานกว่า 16 ปี
เนื้อวะกิวที่เสิร์ฟในร้านเป็นวะกิวระดับพรีเมี่ยมมันแทรกในเนื้อเหมือนกับลายของหินอ่อน รสชาติหอม หวาน นุ่มและแทรกไปด้วยไขมันที่พร้อมจะละลายในปากทุกเมื่อ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2500 – 3500 เยน
ช่วงบ่ายเราแวะไปกินขนมที่ร้าน Nakahora pasture ที่ย่านกินซ่า ร้านนี้อยู่ในตึกที่ชื่อว่า matsuya ginza อยู่ติดสถานีกินซ่า ทางออก A13 ตึกนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบขนมหวานมากๆ เพราะตึกนี้เต็มไปด้วยร้านขนมไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลต มาการอง วางขายกันเหมือนกับเพชรพลอยที่มีค่า ทุกร้านตกแต่งร้านกันอย่างสวยงามน่าซื้อมาก
ร้าน Nakahora pasture อยู่ชั้น B1 เป็นร้านที่ขายนมสด โยเกิร์ต พุดดิ้ง และซอฟครีมแบบญี่ปุ่น เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ค่อนข้างนาน เรียกได้ว่าสั่งครบเกือบทุกเมนู สั่งแล้วสั่งอีก แถมสั่งกลับบ้านอีกด้วย จนคุณลุงทำเกือยไม่ทัน แต่ก็ยังส่งยิ้มบริการลูกค้าอย่างเต็มใจ
กินของหวานเสร็จแล้ว เราก็ไปหาของคาวกินกันต่อเลย มุ่งหน้าไปที่ตึก Ginza INZ 1 เป็นร้านเทมปุระ ฮาลาล ที่มีชื่อว่า Ginza Itsuki สังเกตป้ายเล็กๆ ร้านอยู่ชั้น 2 เป็นโซนอาหาร หาไม่ยากป้ายหน้าร้านชัดเจน
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆเป็นโต๊ะบาร์ยาวนั่งได้ประมาณ 15 คน
มีเมนูเทมปุระให้เลือกไม่มาก เป็นเซตเล็ก เซตใหญ่ ตามความต้องการ
เมนูเริ่มต้นอยู่ที่ 1000 เยน จนถึง 1500 เยน เป็นเมนู Special ประกอบด้วยเทมปุระปลาไหล กุ้ง ฟักทองเห็ดหอม ผัก ปู และไข่ทอดเทมปุระ เสิร์ฟกับซอสดำรสชาตหวานกลมกล่อม ทางร้านทอดเทมปุระโชว์กันแบบสดๆ น่ากินมาก พ่อครัวเป็นคนจีนคุยภาษาไทยกับเราได้นิดหน่อย
ทางร้านเสิร์ฟซุบ และไข่ตุ๋นให้รองท้องก่อน รสชาตินุ่มละลายในปาก ข้างล่างของไข่ตุ๋นมีแปะก๊วย
มีผักดองของร้านที่ทำเองเสิร์ฟให้กินได้ไม่อั้น
ผมแนะนำว่าให้สั่ง Special คุ้มสุดเพราะเราได้กินหลายอย่างมาก เรียกได้ว่าอิ่มจนจุก
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เดินไปช้อปปิ้งต่อ ย่านกินซ่านอกจากร้านรองเท้า ก็มีร้าน Muji เป็น Muji สาขาที่ใหญ่ที่สุด ใครเป็นสาวก Muji กรี๊ดแน่นอน เพราะที่สาขายูระกุโชในย่าน Ginza เป็นสาขาใหญ่ที่สุด ของครบที่สุด ชั้น1 มีโซนขายผัก ผลไม้ของทุกภาคจากญี่ปุ่นหมุนเวียนมาขายไม่ซ้ำตามฤดูกาล มั่นใจได้เลยว่าเป็นผักปลอดสารพิษ เพราะมูจิเขาคัดสรรมาอย่างดี ผู้บริโภคตรวจสอบที่มาแหล่งเพาะปลูกได้เลยนะจ้ะ เรื่องของการตกแต่งร้านก็คงคอนเซปชัดเจนไสตล์มูจิแบบมินิมอล คุมโทนด้วยสีสว่าง และเลือกใช้วัสดุให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ในสาขานี้จะมีคาเฟ่ที่เสิร์ฟเมนูอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบจากแผนกผัก ผลไม้อีกด้วย นอกจากโซนที่กล่าวมาก็จะมีโซนเสื้อผ้าเด็ก ผู้ใหญ่ ชาย หญิงครบทุกเพศทุกวัย ของตกแต่งบ้าน ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีต้นไม้น่ารักๆจำหน่ายอีกด้วย แนะนำว่าใครอยากมาหาไอเดียตกแตกไสตล์มินิมอลก็มาเดินที่นี้ ถึงไม่ซื้อของกลับไป แต่ก็รับรองว่าได้ไอเดียแน่นอน ช้อปปิ้งเสร็จเรียบร้อยเราก็กลับไปที่พักเพื่อพักผ่อน
ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็ต้องแก้ไขและหาทางผ่านไปให้ได้ เหมือนการใช้ชีวิตที่เราต้องพบเจอทั้งเหตุการณ์ที่ดีและร้าย ผ่านมา…แล้วก็ผ่านไป เพื่อเกิดเป็นความทรงจำอันมีค่าสำหรับเรา… ไม่ออกเดินทาง ก็คงไม่มีทางรู้…
ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็ต้องแก้ไขและหาทางผ่านไปให้ได้ เหมือนการใช้ชีวิตที่เราต้องพบเจอทั้งเหตุการณ์ที่ดีและร้าย ผ่านมา…แล้วก็ผ่านไป เพื่อเกิดเป็นความทรงจำอันมีค่าสำหรับเรา… ไม่ออกเดินทาง ก็คงไม่มีทางรู้…
ใครยังไม่ได้อ่าน EP อื่นๆ ตามได้ทางนี้เลย>>