มัทฉะเป็นเครื่องดื่มล้ำค่า และมีคุณค่าสูง ในอดีต มัทฉะถูกสงวนไว้เฉพาะสมเด็จพระจักรพรรดิ ราชวงศ์และขุนนางชั้นสูงเท่านั้น แม้ในปัจจุบัน การดื่มมัทฉะจะแพร่หลายไปทั้งประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก ความพิถีพิถันทุกขั้นตอนก็ยังคงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
หากเอ่ยถึง มัทฉะ คนญี่ปุ่นจะนึกถึง มัทฉะ แห่งตระกูล นากามูระ 1 ใน 3 ตระกูลกูรูแห่งชาที่เก่าแก่ และทรงเกียรติที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ปัจจุบัน ทายาทรุ่นที่ 4 แห่งตระกูลนากามูระ ได้รับการยกย่องให้เป็นกูรูชาของประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่เป็นผู้มีความรอบรู้เรื่องมัทฉะอย่างลึกซึ้ง
มัทฉะจะเก็ยบเกี่ยวได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยคัดจากแปลงชาที่สมบูรณ์ที่สุด การเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนตั้งแต่…
1 การปลูกมัทฉะ ต้องเลือกพื้นที่ในการปลูกที่อยู่ในหุบเขา เพราะอุดมด้วยดินที่มีแร่ธาตุสูง ช่วยขับรสชาติของมัทฉะให้กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
2 การเก็บยอดชานั้น ต้องเก็บด้วยมือโดยผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์เท่านั้น ต้องเลือกเฉพาะยอดอ่อนที่สมบูรณ์
3 ยอดชาที่เก็บเกี่ยวได้ จะถูกนำเข้าสู่โรงอบไอน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาปริมาณสารคาเทซินในใบชาให้คงอยู่มากที่สุด
4 ร่อนใบชาแห้งเพื่อขจัดกิ่งและก้านออกให้หมด
5 นำไปบดด้วยเครื่องโม่ ที่ทำจากหินชนิดพิเศษ ที่ทำเพื่อการบดมัทฉะโดยเฉพาะ
ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ทำให้มัทฉะเป็นเครื่องดื่มทรงคุณค่า และกลายเป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ วัฒนธรรมชา
ทางร้าน Abushi ได้บรรจงเลือกสรร คัดวัตถุดิบที่ดีที่สุด เพื่อได้ลูกค้าของเรา ดื่มด่ำกับรสชาติที่แท้จริง