หลังจากที่เราตามหามานาน ในที่สุดเราก็ค้นพบร้านยากินิคุเนื้อวะกิวพรีเมี่ยมฮาลาล ถ้าพูดถึงเนื้อวะกิวคงไม่มีนักชิมคนไหนไม่รู้จัก แต่กระนั้นเนื้อวะกิวก็แบ่งออกเป็นหลายเกรด ร้านในบ้านเราส่วนใหญ่จะเลือกใช้เนื้อวัววะกิวที่นำเข้าจากออสเตรเลีย มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที่ถ้าไม่ได้ลองเนื้อวะกิวของญี่ปุ่นก็คงจะพลาดมหันต์ สำหรับร้านที่เราจะแนะนำเป็นร้านปิ้งย่างเสิร์ฟเนื้อวะกิวพรีเมี่ยมของแท้ ที่เลี้ยงดูในประเทศต้นกำเนิด เสิร์ฟชิ้นหนา รสสัมผัสนุ่มละมุนในปาก พูดได้เต็มปากว่าเป็นเนื้อละลายในปาก ไม่ต้องกลัวจะติดซอกฟันเลย ฮ่าๆ และที่สำคัญมีใบรับรองฮาลาลอีกด้วย
Panga เป็นร้านอาหารไสตล์ยากินิคุ ตั้งอยู่ที่ Satake ย่านช้อปปิ้งแถว Okachimachi เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฮาลาลที่ได้รับใบรับรองฮาลาลทั้งวัตถุดิบเนื้อ และเครื่องปรุง จาก JAPAN HALAL FOUNDATION ของมัสยิดเมือง Okachimachi เรื่องรสชาติของอาหารคงไม่ต้องกังขา เนื่องจากเสิร์ฟความอร่อยมายาวนานกว่า 16 ปี เป็นร้านที่ใช้แต่เนื้อวะกิวที่เลี้ยงดูในประเทศญี่ปุ่นจากจังหวัดอิวาเตะ ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อชั้นเลิศของทางฝั่นตะวันออก เทียบได้กับเนื้อวะกิวมัตซึซากะทางฝั่งตะวันตก ด้วยวิธีการเลี้ยงดูที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน พิถีพิถันในทุกขั้นตอน และจะต้องเลี้ยงด้วยหญ้าที่หาได้จากแหล่งที่เหมาะสมเท่านั้น จะไม่ใช้หญ้าที่นำเข้ามาโดยเด็ดขาด เพราะหญ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้เนื้อวัวมีสีสวยน่ารับประทาน และเป็นร้านที่ได้รับการโหวตจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นให้เป็นร้านปิ้งย่างระดับท้อป เนื้อวะกิวที่เสิร์ฟในร้านเป็นวะกิวระดับพรีเมี่ยมมันแทรกในเนื้อเหมือนกับลายของหินอ่อน รสชาติหอม หวาน นุ่มและแทรกไปด้วยไขมันที่พร้อมจะละลายในปากทุกเมื่อ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2500 – 3500 เยน
ก่อนจะรีวิวผมอยากจะแนะนำเกี่ยวกับวะกิวสักเล็กน้อย เพราะความเข้าใจในสิ่งที่เราจะกินเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงเลิศรส ถือเป็นการให้เกรียติน้องวัวทั้งหลายที่สละชีวิตให้เราได้รับประทานของอร่อยๆ
วะ แปลว่า ญี่ปุ่น กิว แปลว่า วัว ดังนั้นคำว่าวะกิวจึงแปลได้ตรงตัวว่าวัวญี่ปุ่น ซึ่งมีหลายสายพันธ์ ทั้งขนดำ ขนน้ำตาล เขาสั้นและไม่มีเขา สายพันธ์ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดคือสายพันธ์ขนดำ ซึ่งจะเป็นเนื้อวัวชั้นดีจะต้องเริ่มจากการคัดเลือกสายพันธ์วัวที่ดีกันก่อน ต้องเป็นวัวขนดำที่ดีสุด ไม่ใช่วัวขนดำทุกตัวจะเป็นเนื้อวะกิวชั้นเลิศ จะต้องมีเงื่อนไขการเลี้ยงดู ด้วยอาหารที่มีเส้นใยสูง และบางที่ก็ทำให้วัวมีความสุขด้วยสาเกและเบียร์ (ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อจากโกเบ) บันเทิงด้วยเสียงเพลงคลาสสิค และผ่อนคลายด้วยการนวด จึงจะได้เข้ารอบเป็นเนื้อวัววะกิวพรีเมี่ยม หลังจากเข้าโรงเชือดแล้วก็จะต้องมีการตัดเกรดเนื้อวะกิวกันอีก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เข้มงวดมากในเรื่องคุณภาพ โดยจะจัดเกรดเนื้อเป็น A B C 1-5 และอีกเรื่องที่ซีเรียสมากคือลายมันที่แทรกในเนื้อ หรือเรียกสั้นๆว่า BMS (Beef Marbling Sandard) แบ่งย่อยเป็นระดับ 1-12 และเนื้อวัวที่อยู่ในเกรด A4-6 คือคุณภาพเนื้อระดับ A4 และ BMS ระดับ 6 ขึ้นไป จึงจะได้สวมมงกุฎ Queen of Beef โดยที่วัวที่ถูกเลี้ยงดูไม่ถึงครึ่งจะผ่านถึงขั้นนี้ ความจริงจรังขั้นสุดแบบนี้จะต้องเป็นประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นจริงๆ ต้องยอมเขาเลย
นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว เรื่องความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน วะกิวที่เลี้ยงอย่างผ่อนคลายและไม่เครียด ทำให้วัวไม่หลังสารก่อมะเร็ง อีกทั้งอาหารเส้นใยสูงที่วัวกินเข้าไปทำให้ไขมันแทรกในเนื้อวัวเป็นไขมันดี มีสัดส่วนของไขมันไม่อิ่มตัว Omega-3 และ Omega-6 มากกว่าเนื้อวัวชนิดอื่น ดีต่อระบบเมตาโบลิซึม หรือการเผาผลาญอาหารในร่างกาย สามารถย่อย
และใช้ประโยชน์จากกรดไขมันไม่อิ่มตัวได้ดีกว่า ทำให้ไม่เกิดการสะสมของไขมัน แต่คงจะบอกไม่ได้ว่ากินเนื้อวะกิวพรีเมี่ยมแล้วไม่อ้วนคงพูดไม่ได้ เพราะยังมีไขมันอิ่มตัวในเนื้อด้วยแต่เป็นปริมาณที่เล็กน้อยเนื้อวัวประเภทอื่น
หลังจากที่ทราบรายละเอียดเกี่ยววะกิวกันแล้ว เรามาเริ่มริวิวร้านเนื้อญี่ปุ่นวะกิวพรีเมี่ยมฮาลาล
ถ้าจะเดินทางมาที่ร้าน Panga Halal Wagyu Yakiniku นี้ ให้ใช้รถไฟสายสีชมพู หรือ Oedo Line มาลงที่สถานี Shin-Okachimachi สังเกตที่โลโก้นกฮูก ซึ่งเป็นย่านชอปปิ้งที่เรียกว่า Satake
ระหว่างทางหิมะก็เริ่มตกพอดี เป็นหิมะแรกของโตเกียว ครั้งนี้มาเร็วกว่าปกติ ปกติจะมาช่วงมกรา-กุมภา แต่ปีนี้ตกในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นหิมะแรกของเดือนพฤศจิกายน ในรอบ 54 ปี สร้างความหนาวเหน็บให้แก่ทีมงานเป็นอย่างยิ่ง
ในที่สุดก็ถึงสักที กว่าจะถึงร้าน Panga ที่ช้าไม่ใช่ว่าระยะทางไกล แต่ทิวทัศน์ระหว่างทางมันน่าจดจำทุกมุมเลยต้องแวะเก็บภาพสักเล็กน้อยถึงปานกลาง มันก็จะหลายร้อยรูปหน่อยๆ ฮ่า
หน้าร้านสังเกตุได้ง่ายมีโลโก้ฮาลาลเด่นชัดสะดุดตา ภาพเมนูเด่นชัดให้เลือกกันตั้งแต่หน้าร้าน เห็นเมนูหน้าร้านแล้วรู้เลยว่าจะสั่งอะไรเพราะภาพเนื้อมันยั่วยวนสะจริงๆ
บรรยากาศภายในร้านอบอุ่น มีสองชั้น ตกแต่งแนวไม้สไตล์ญี่ปุ่น มีความเป็นส่วนตัว ไฟสลัวๆ เป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการกินยากินิคุเป็นอย่างยิ่ง
เมนูของทางร้านก็มีให้เลือกรับประทานหลากหลาย หลักๆก็จะเป็นเมนูเนื้อ และมีเมนูอาหารเกาหลีให้เลือกรับประทานอีกด้วย ถ้ามาในช่วงกลางวันจะมีเมนูเป็นเซทอาหารกลางในราคาประหยัด ประกอบด้วย เนื้อวะกิว ข้าว ผักสลัด และซุปสาหร่าย ส่วนเนื้อมีให้เลือกหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นลิ้นวัว สันคอ ส่วนซี่โครง ส่วนพื้นท้อง และเครื่องใน
เซ็ทเนื้อชุดใหญ่ มีทั้งลิ้นและเนื้อวะกิว ทานได้ประมาณ 3-4 คน
ทริปนี้เราไปกันหลายคน เลยได้ลองสั่งหลายๆแบบ อาหารก็จะเต็มโต๊ะหน่อยๆ ลองสั่งพิซซ่าเกาหลีแป้งบางกรอบข้างในเป็นไส้มันฝรั่ง และสั่งเซทอาหารกลางวันเป็นชุดเนื้อพร้อมข้าวญี่ปุ่น สลัด และซุปสาหร่าย
ผักสลัดเคียงคงไม่ต้องอธิบายมาก ดูจากภาพก็น่าจะรู้ว่าสดสะดุ้งลิ้นแค่ไหน
เซทนี้เป็นเซทเนื้อส่วน short rib เป็นเนื้อส่วนติดซี่โครงเนื้อจะมีมันแทรกนิดหน่อย แต่รับรองได้เลยไม่ว่าจะเนื้อส่วนไหนละลายในปากเหมือนกัน
เซทนี้จะเป็นเซท Premium select wagyu SET เซทรวมเนื้อ และลิ้นวัว เนื้อมันช่างฉ่ำนุ่มน้ำตาจะไหล ฮ่าๆ
หลังจากถ่ายรูปเรียบร้อยถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย บรรจงคีบเนื้อวางบนตะแกรง เนื้อไขมันแทรกกระทบกับตะแกรงย่างที่ร้อนๆจึงเกิดเป็นเสียงแห่งความฟินดังฉ่า กลิ่นหอมของควันเนื้อย่างลอยขึ้นเตะจมูกรับรู้ได้ถึงวะกิวอันโอชะ
คุณไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันเนื้อจะติดชุดตัวเก่งแล้วจะไปเที่ยวต่อไม่ได้ เพราะที่ร้านใช้เตาย่างอย่างดี พร้อมกับระบบดูดควันย่างจึงไม่มีกลิ่นติดเสื้อผ้าแม้แต่น้อย ให้ตายเหอะไจแอ้นมันยอดมาก
อีกภาพชัดๆให้เห็นลายเนื้อวะกิวจากอิวาเตะจากฝั่งตะวันออก บอกได้เลยว่าไขมันมากกว่าเนื้อ ไม่ละลายในมือ แต่ละลายในปากนะจะบอกให้
เนื้อชิ้นหนาแค่ไหนถามสายตาเธอดู เนื้อเน้นๆ ฟินไปสามโลกแปดโลก นี่สิทีเรียกว่าเนื้อวะกิวปิ้งย่างที่แท้ทรู
ทานเนื้อย่างอย่างเดียวมันก็จะเลี่ยนหน่อยๆ เราเลยสั่งบิบิมบับเนื้อมาตัดเลี่ยนสักนิด เพิ่มความอิ่มสักหน่อย มันก็จะอร่อยแบบเกาหลีๆอะตัวเธอ
อีกเมนูสัญชาติเกาหลี Ishiyaki pibinbab บิบิมบับเนื้อย่างโปะด้วยไข่ดิบสดๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันเนื้อนุ่มๆคลุกกับไข่สดไม่มีกลิ่นคาวมันก็จะหวานไปอีก เขียนไปด้วยน้ำลายไหลไปด้วยบอกเลย ฮ่าๆ
อีกเมนูของทานเล่นพิซซ่าเกาหลีแป้งกรอบๆ ข้างในเป็นมันฝรั่งทานเพลินเจริญใจ สำหรับค่าเสียหายถือว่าคุ้มเทียบกับความฟิน มีโอกาสรับรองว่าต้องมาจัดชุดใหญ่อีกครั้งแน่นอน
กินเสร็จระหว่างทางกลับจะมีร้านขายของมากมายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือซูเปอร์มาเก็ตเล็กๆขายผักผลไม้สดวางเรียงสวยงามดูน่ากิน แต่พวกเราคงไม่เหลือพื้นที่ให้กระเพราะน้อยๆอีกแล้ว เลยเดินเล่นเก็บภาพสวยๆระแวกนั้นก่อนกลับจะไปหาร้านราเมนอร่อยๆสำหรับมื้อเย็น
สำหรับการรีวิวร้านเนื้อย่างวะกิวพรีเมี่ยมก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ ถ้าหากว่าบทความนี้มีประโยชน์อย่าลืมแชร์ให้กับคนที่คุณรู้จัก อย่าลืมติดตามว่าตอนหน้าเราจะนำเสนอร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งที่ไหน
ส่วนท่านใดต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามทางเราได้ผ่านทางแฟนเพจหรือไลน์ได้เลยนะครับ ทางเรายินดีเสมอ